ไม่นับถือศานสนา ถือว่าเป็นคนไม่ดีจริงเหรอ?

เรื่องของศาสนา

Categories :

ว่ากันด้วยเรื่องของศาสนาแล้ว ศาสนาเป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณการ เป็นทั้งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและแนวทางในการดำเนินชีวิตของหลาย ๆ คน  ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมมีผลเสียตามมา โดยส่วนใหญ่แล้วหลักของแต่ละศาสนานั้นจะเน้นให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างดี ไม่เบียดเบียนกัน  ไม่ทำสิ่งเลวร้ายต่อตนเองและผู้อื่น เพราะฉะนั้นแล้วศาสนาจึงฝังอยู่ในแต่ละพื้นที่ทั่วโลกจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่ไม่สามารถแยกออกจากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทยเอง สามารถสังเกตได้จากวันสำคัญหรือวันหยุดต่าง ๆ ของแต่ละพื้นที่ส่วนใหญ่ก็มักจะเกี่ยวข้องกับพิธีทางศาสนาทั้งสิ้น แต่ในปัจจุบันกลับมีจำนวนผู้ไม่นับถือศาสนาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและน่าสนใจ ในอนาคตคาดว่าอาจจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ  แล้วการไม่นับถือศาสนาแบบนี้จะส่งผลดีหรือผลเสียกันแน่ บทความนี้จึงจะพาทุก ๆ ท่านไปสำรวจความคิดเห็นและนำเสนอมุมมองต่าง ๆ ให้ท่านได้ทราบและเก็บไว้พิจารณากันครับ

นิยามของศาสนาส่วนใหญ่เป็นอย่างไร?

ความหมายของคำว่า “ศาสนา” ราชบัณฑิตยสถาน ได้กล่าวไว้ว่า ศาสนา คือ ลัทธิความเชื่อของมนุษย์อันมีหลัก แสดงกำเนิดและความสิ้นสุดของโลก เป็นต้น อันเป็นไปในฝ่ายปรมัถต์ประการหนึ่ง แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทำตามความเห็น หรือตามคำสั่งสอนในความเชื่อนั้น ๆ”

สาเหตุหลักที่น่าสนใจของคนที่เลือกไม่นับถือศาสนา

หลายๆ ท่านอาจคิดว่าการเลือกที่จะไม่นับถือศาสนาเกิดขึ้นเป็นเทรนด์แค่ในช่วงหนึ่ง ทำตามกันไปเพราะกระแสสังคม แต่ความจริงแล้ว ต่างคนต่างมีความคิดเห็นที่น่าสนใจมากกว่านั้น จากการลองศึกษาและทำการสืบค้นความคิดเห็นผ่านกระทู้และโซเชียลมีเดียหลากหลายช่องทาง จึงทำให้เราได้หลักความคิดใหม่ ๆ มากมายที่น่าสนใจ และความคิดเห็นที่ไม่ควรมองข้าม อย่างเช่น บางท่านมองว่าศาสนาไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าใครดี ไม่ดี ทำบุญแล้วจะเป็นคนดี ซึ่งจากข่าวสารในปัจจุบันก็ได้เห็นกันในหลาย ๆ กรณีที่ทำบุญบังหน้า หน้าไหว้หลังหลอกก็เยอะ จำพวกเปิดรับบริจาคปลอม ๆ หากินบนความหวังดีของผู้อื่น เป็นต้น  และคนเหล่านี้ยังให้ความเห็นอีกส่วนนึงว่า “สิ่งที่น่าเบื่อหน่ายอย่างหนึ่งของศาสนา คือการสอนให้คนอยู่ในกรอบด้วยความกลัว อย่าทำอย่างนี้นะเพราะจะบาป-กรรม ทำแบบนี้แล้วตายไปจะตกนรก เกิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกือบจะเป็นนามธรรม เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจริงๆ แล้วนรก-สวรรค์เป็นอย่างไร จะมีจริงหรือไม่?

อีกทั้งมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกผิดหวังกับพฤติกรรมของผู้เป็นตัวแทนเผยแผ่ศาสนาและผู้ที่เลื่อมใสศาสนามากเกินไปจนส่งผลเสีย เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาเดินออกมาอยู่ในจุดที่พอดี เลือกนับถือแต่คำสอนที่ควบคู่กับความเป็นจริงนั้นเอง

เพราะฉะนั้นการที่คนเราต่างความคิด จะนับถือศาสนาหรือไม่นั้น ทุกคนควรเข้ารบในความคิดต่างของกันและกัน เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ดี ไม่ควรเอาตนเองตัดสินคนอื่นจากความเห็นต่าง  ทั้งนี้การจะเป็นคนดีหรือไม่ดีนั้น ล้วนแล้วแต่อยู่ที่การกระทำของตน ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ดังคำกล่าวที่คุ้นเคย “ดี-ชั่ว อยู่ที่ตัวทำ สูง-ต่ำ อยู่ที่ทำตัว”