ประกันรถยนต์ 2+ ราคาเท่าไหร่จึงดี


Categories :

อยากทำประกันชั้น 1 เงินไม่ถึง ไลฟ์สไตล์การขับไม่ได้สมบุกสมบัน แถมยังมีความเชี่ยวชาญในการขับรถอยู่พอตัว ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ด้วยการเลือกประกันรถยนต์ 2+ สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลและเริ่มสนใจการทำประกันรถยนต์ แต่ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับราคา วันนี้เราจะมาอธิบายให้ฟังว่าประกันรถยนต์ 2+ ราคาเท่าไหร่จึงดี

ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ 2+ ราคาเริ่มต้นไม่สูง

ก่อนอื่นมาลองทำความเข้าใจก่อนว่าประกันรถยนต์ 2+ ราคาเท่าไหร่จึงดีที่ว่า จะได้รับความคุ้มครองมากแค่ไหน 

  • คุ้มครองค่าเสียหายของรถยนต์ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบรถชนรถ
  • คุ้มครองความเสียหายรถ ทรัพย์สิน และค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของผู้เอาประกันและผู้โดยสาร
  • คุ้มครองในกรณีสูญหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม (บางกรมธรรม์)
  • ให้ความคุ้มครองอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไขกรมธรรม์ของบริษัทประกัน

แล้วประกันรถยนต์ 2+ ราคาเท่าไหร่จึงดี

โดยเฉลี่ยแล้วประกันรถยนต์ 2+ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 7,000 ขึ้นอยู่กับบริษัทประกัน เช่น วิริยะประกันภัยราคาเริ่มต้น 7,500 บาท กรุงเทพประกันภัยราคาเริ่มต้น 6,600 บาท ธนชาตประกันภัยราคาเริ่มต้น 6,500 บาท LMG ประกันภัยราคาเริ่มต้น 7,300 บาท เป็นต้น

ประกันรถยนต์ 2+ ราคาเริ่มต้นหลักพันต่างกับประกันชั้น 1 อย่างไร

ในส่วนของความคุ้มครองประกันรถยนต์ 2+ จะครอบคลุมเหมือนกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ยกเว้นความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์จะคุ้มครองเฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น ส่วนประกันชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นชนต้นไม้ เสาไฟฟ้า เกาะกลางถนน หรือรถชนรถ ส่วนประกันรถยนต์ 2+ ราคาหลักพันต่างจากประกันชั้น 1 อย่างไรนั้น โดยเฉลี่ยแล้วถูกกว่ากันประมาณ 1 – 2 เท่าตัว 

ใครบ้างที่เหมาะกับประกันรถยนต์ 2+ ราคาจับต้องได้

เมื่อลองพิจารณาถึงความคุ้มครองและราคาที่ต้องจ่ายไปกับประกันรถยนต์ 2+ ทุกคนย่อมเห็นพ้องต้องกันว่าค่าใช้จ่ายไม่สูง แต่ได้รับความคุ้มครองครอบคลุมใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ประกันในราคาย่อมเยา แต่คุ้มครองครอบคลุมผู้มีวินัยและประสบการณ์ในการขับขี่ ไม่ค่อยได้ขับรถหรือจอดมากกว่าขับ การเลือกประกันรถยนต์ 2+ ราคาจับต้องได้ก็จะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า

อย่างไรก็ตามหากสนใจประกันรถยนต์ 2+ ราคาย่อมเยา อย่าลืมทำการตรวจสอบบริษัทประกันด้วยว่ากรมธรรม์ดังกล่าวมีรายละเอียดอย่างไร คุ้มครองมากแค่ไหน รวมถึงตรวจสอบด้วยว่าอายุการใช้งานรถกี่ปี เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อกรมธรรม์ ยิ่งใครที่พบว่าตนเองมีงบในเรื่องนี้น้อย แต่อยากได้การคุ้มครองที่คุ้มค่า ยิ่งต้องใส่ใจในการเลือกกรมธรรม์ที่ใช่ เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้งบบานปลาย